เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ต.ค. 57 ที่ห้องประชุมภาค 2 พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสิน พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุขรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี พ.ต.ท.คมสรณ์ มาบำรุง รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นางปิยวัลย์ หรือโอ๋ ผสมทรัพย์ อายุ 37 ปี และ นายอภิชาติ หรือแก้ว กรีวัชรินทร์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางรถกระบะ โตโยต้า วีก้า หมายเลขทะเบียน ถฬ – 567 กทม. ที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ
พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2557 เวลา 23.40 น.เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 68/198 ม.9 ต.นาป่า อ.เมืองชลบุรี จึงไปตรวจสอบพบศพ นางวรรณวิไล พลเภา และนางสาวกัญญาภัค พลเภา ถูกยิงเสียชีวิต และมีบาดเจ็บ 2 รายคือ นายธงชัย พลเภา และนายอนุชา แก้วปราณี จึงทำการสอบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุยิงคือ นายสุทธนา เพ็ญโฉม ซึ่งเป็นสามีของนางปิยวัลย์ ได้ลงมือร่วมกับผู้ต้องหาทั้งสอง จึงติดตามจับกุมตัวหลังผู้ต้องหาทั้งสองไปหลบซ่อนตัวในตำบลบางทราย อำเภอเมืองชลบุรี ส่วนนายสุทธนา ยังหลบอยู่แต่เชื่อว่าจะได้ตัวภายใน 2 วันนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่า ได้ลงมือทำร้ายกลุ่มผู้ตายจริงแต่เป็นการป้องกันตัว
ต่อมาเวลา 12.00 น.พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นายได้นำตัว นางปิยวัลย์ หรือโอ๋ ผสมทรัพย์ อายุ 37 ปี และ นายอภิชาต หรือแก้ว กรีวัชรินทร์ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้าบ้านเลขที่ 68/198 และ 68/169 หมู่ที่ 9 ตำบลนาป่า อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี ที่ได้ร่วมกันกับนายสุทธนา เพ็ญโฉม ก่อเหตุยิงนางวรรณวิไล พลเภา และนางสาวกัญญาภัค พลเภา เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย ล่าสุดได้ 1 ในผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายธงชัย พลเภา ที่ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่จมูก กระสุนไปฝังที่สมอง ได้เสียชีวิตในเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลเอกชล 2 แล้ว โดยตลอดเวลาของการทำแผนมีชาวบ้านมามุ่งดูจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ต้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ามารุมประชาทัณฑ์ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าสาปแช่งของญาติๆผู้เสียชีวิต
พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองชลบุรี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย เหลือเพียงนายสุทธนาคนลงมือยิงที่หลบหนีอยู่ จึงอยากขอให้มามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังในการจับกุมเพราะผู้ต้องหามีอาวุธปืน
ด้านนายไพบูลย์ โพธิ์ทอง อายุ 51 ปี บิดานายธงชัย ที่เพิ่งจะเสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกชายพาเพื่อนมาช่วยขนย้ายของเพื่อย้ายบ้าน ก่อนจะขับรถไปส่งเพื่อนๆที่ บางบ่อ สมุทรปราการ พอกลับมาบ้าน และในขณะที่ตนเองออกมาหน้าบ้าน ก็ถูกนายสุทธนา ไล่ยิงแต่ไม่โดนตนเองจึงก้มหลบ หลังจากนั้นนายสุทธนาก็หันไปไล่ยิงลูกชายกับลูกสาว จนภรรยาออกมาช่วยลูกชายก็ถูกยิงตายไปอีกคน โดยขณะเกิดเหตุนางปิยวัลย์ได้ตะโกนว่าให้ฆ่าล้างโคตรมันเลย ตนเองจึงให้มีการลงโทษผู้ต้องหากลุ่มนี้อย่างสาสม ที่ผ่านมาครอบครัวทั้งสองมีเรื่องทะเลาะกันมาตลอด เพราะคู่กรณีทำตัวมีอิทธิพลจนไม่มีใครกล้าไปยุ่งด้วย

ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า วันเกิดเหตุ กลุ่มผู้ตายได้กำลังย้ายของเพื่อไปอยู่บ้านใหม่ แต่เกิดทะเลาะเถียงกับนางปิยะวัลย์ นางปิยะวัลย์จึงโทรตามสามีให้กลับมาจากกรุงเทพ และรอจนกลุ่มผู้ตายกลับมาขนของเที่ยวสุดท้าย นางปิยะวัลย์ซึ่งเฝ้าดูอยู่จึงบอกให้สามีไปทำร้ายผู้ตายดังกล่าว