เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 27 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด บุกจู่โจมเข้าจับกุมนายชาคริต สุขทวี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 11 ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ในห้อง เช่าเลขที่ 5 / 78 หมู่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี พบอุปกรณ์อะไหล่รถ จยย.จำนวนมาก พร้อมทั้งอุปกรณ์งัดรถ หลังจากนั้นได้คุมตัวไปที่บ้านเช่าเลขที่ 74 / 4 หมู่ 5 ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งมีเจ้าหน้าตำรวจชุดสืบสวน สภ.แสนสุข ได้คุมสถานการณ์ พร้อมทหารจาก มทบ.14 และเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.เมืองชลบุรี ได้จับกุมนายพงษ์เมธ สุขทวี อายุ 20 ปี น้องชายนายชาคริต และนายเอ ( เยาวชน อายุ 17 ปี 1 คน ) ตรวจสอบในห้องเช่า พบรถ จยย.ยี่ห้อแพงหลายคันและรถ จยย.ทั่วไป รวม 5 คัน และรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านนอกห้องรวมทั้งโครงรถ จยย.อุปกรณ์งัดรถ นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนอาก้า พร้อมกระสุนอาก้า 54 นัด อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 34 นัด ระเบิด M 76 จำนวน 1 ลูก และได้ยึดรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัล สีเทา ตีตู้ทึบ ทะเบียน ผอ 5524 ชลบุรี ที่เอาไว้สำหรับบรรทุกรถ จยย.ที่ขโมยมา
สอบสวนนายพงษ์เมธ เผยว่า ได้ร่วมกับพี่ชาย ตระเวนขโมยรถ โดยตนจะเป็นคนขี่รถ จยย.ตระเวนหารถ จยย.ราคาแพงตามใบสั่ง ส่วนพี่ชายจะขับรถกระบะเพื่อรอรับรถ จยย.ที่ขโมยได้แล้ว นำขึ้นรถมาพักไว้ในห้องเช่า ส่วนรถคันไหนที่มี จีพีเอส ก็จะถอดออก เพื่อป้องกันการติดตามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของรถ โยรถ จยย.หรูราคาแพงเช่นยี่ห้อยามาฮ่า เมื่อส่งไปขายให้กับเขมรที่ชายแดนไทย ก็จะขายได้คันละ 30,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถฮอนด้า เวฟก็จะได้คันละ 15,000 บาท โดยตนกับพี่ชายทำมาแล้วกว่า 50 คัน เงินได้มาก็นำไปเที่ยวกินอย่างมีความสุข ต่อมาตำรวจคุมตัวทั้ง 3 คน ไปสอบสวนขยายผลต่อ ว่ามีคนร้ายร่วมอีกหรือไม่ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมต่อไป